เสริมจมูกแบบโอเพ่น ปรับโครงสร้างจมูก สโลปปลายพุ่งอย่างปลอดภัย

พูดถึงในยุคปัจจุบันการเสริมจมูกถือเป็นเรื่องปกติ และกลายเป็นการศัลยกรรมที่ได้เป็นกระแสฮิตอย่างมาก  เพราะเพียงแค่เปลี่ยนทรงจมูกใบหน้าก็เปลี่ยนไปด้วย พอทำทั้งทีก็อยากได้ทรงที่ โด่ง พุ่ง  แต่สิ่งที่ตามมาคือ ซิลิโคนทะลุ วันนี้ทาง Luxury Clinic พามารู้จักเทคนิคใหม่เสริมจมูกแบบโอเพ่นโดยไม่ใช้ซิลิโคน โดยเป็นการผ่าตัดแบบ “โอเพ่น” (Open Rhinoplasty) ใช้เทคนิคแท้จากเกาหลีออกแบบโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางร่วมมือกับแพทย์เกาหลี ช่วยเสริมให้ยืดปลายจมูกได้มากกว่าปกติ ไม่ได้เป็นการเสริมเหมือนทั่วไป แต่สามารถช่วยลดปัญหาต่างๆ ปลายไม่ทะลุหมดกังวลปัญหาปลายจมูกบาง  ซึ่งจะมีทรงจมูกที่ดูสันจมูกสโลป ปลายพุ่ง สไตล์เกาหลี ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกทั้งเป็นเทคนิคที่ได้ผลลัพธ์ออกสวยถูกใจคนไข้

เสริมจมูกแบบโอเพ่นคืออะไร ?

เสริมจมูกแบบโอเพ่น หรือเสริมจมูก Open Reconstruction คือ การเสริมจมูกแบบเปิดเพื่อปรับโครงสร้างจมูกอย่างตรงจุด โดยการกรีดแผลจมูกเข้าไปเคลียร์ปัญหาทั้งหมด เพื่อตอกฐานแก้ไขโครงสร้าง ตั้งแกนกลาง ลดขนาดปลาย รวมถึงการยืดผนังกั้นจมูก เป็นการต่อแกนจมูกจริงให้ยาวขึ้นแล้วค่อยเสริมปรับเข้าไป ซึ่งการการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด มักจะต้องใช้กระดูกอ่อนจากส่วนอื่นของร่างกายเพื่อนำมาเป็นโครงสร้างของจมูกที่จะเสริมใหม่ โดยกระดูกอ่อนที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู (Ear cartilage), กระดูกอ่อนแกนจมูก (Septal cartilage), และกระดูกอ่อนซี่โครง (Costal cartilage) ที่จะช่วยยืดจมูกให้ปลายพุ่งสวยมากกว่าและป้องกันการทะลุ

เสริมจมูกแบบโอเพ่นมีเทคนิคใดบ้าง ?

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) คนไข้หลายคนคุ้นกับชื่อการเสริมจมูกเกาหลี เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกภายนอกเพื่อปรับโครงสร้างจมูก สร้างรูปทรงจมูกที่ต้องการขึ้นมาใหม่ ซึ่งการเสริมจมูกหลัก ๆ ของ Luxury Clinic จะมีอยู่ 2 เทคนิคด้วยกันคือ

  • เทคนิค Birkin’s Nose เป็นการเสริมจมูกแบบเปิด ยืดผนังกั้นจมูกแบบปลายไร้ซิลิโคน ซึ่งเป็นการเสริมจมูกแบบเปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูกและกรีดเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก เพื่อแยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก วิธีนี้สามารถปรับโครงสร้างเดิมของจมูกที่มีปัญหาการเสริมจมูกแบบโอเพ่นสามารถเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู ปรับแต่งโครงสร้างจมูก และรองปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุได้ทั้งหมดในครั้งเดียวกัน โดยการเสมริมจมูกแบบโอเพ่นจะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศัลยแพทย์และปัญหาของแต่ละบุคคล

  • เทคนิคเสริมจมูกโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง เป็นการเสริมจมูกโดยการใช้กระดูกอ่อนบริเวณซี่โครง โดยทั่วไปใช้ของคนไข้เองเพราะกระดูกอ่อนซี่โครงเทียมมีข้อจำกัดหลายด้านเช่น ชิ้นเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง เปราะแตกง่าย

    กระดูกอ่อนซี่โครงอีกหนึ่งรูปแบบการเสริมจมูกที่นิยมไม่แพ้การเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหูเลย โดยจะใช้การผ่าตัดเปิดบริเวณใต้ราวนม เพื่อนำกระดูกซี่โครงออกมา จากนั้นจะเหลาซิลิโคนให้ได้รูปทรง และนำไปเสริมจมูก กระดูกอ่อนบริเวณนี้มีความแข็งแรงมาก ทำให้เมื่อนำไปเสริมจมูก จมูกที่ได้จะมีความโด่ง และยาวมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นใครที่มีเนื้อจมูกบาง หรือมีเนื้อจมูกน้อยก็สามารถเสริมด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงได้

         –  สามารถเสริมได้ทั้งสันจมูก และปลายจมูก เนื่องจากกระดูกมีความแข็งแรง ทำให้เมื่อนำไปเสริมจมูก จะได้จมูกที่มีความเป็นธรรมชาติ แต่แข็งแรง

         – สามารถใช้แก้ปัญหาทรงจมูกได้หลากหลาย และสามารถนำไปปรับโครงสร้างจมูกได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะคนที่มีการปรับแก้จมูกมาหลายรอบ หรือเจออุบัติเหตุ จนโครงสร้างจมูกเสียไป

เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู กับ เสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง ต่างกันอย่างไร ?

การเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนทั้งสองแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหลังหู หรือกระดูกซี่โครง ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพราะเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกายของเราทั้งสิ้น ทำให้เมื่อนำไปเสริมจมูก มักจะไม่ค่อยมีผลข้างเคียงจากการเสริมจมูกมากนัก เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย อีกทั้งกระดูกอ่อนยังเหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อจมูกบาง หรือเนื้อจมูกน้อยอีกด้วย จึงทำให้ทั้งสองแบบนิยมนำมาใช้ในการรองบริเวณปลายจมูก โดยเฉพาะกระดูกอ่อนหลังใบหู ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้เหมาะสำหรับนำไปเสริมจมูกทรงที่เน้นปลายจมูก อย่างทรงหยดน้ำ ทรงปลายจมูกเชิด หรือทรงสายฝอได้ดี

แต่ถ้าใครที่เป็นคนที่ต้องมีการปรับแก้จมูกบ่อยๆ หรือโครงสร้างจมูกเสีย ควรจะใช้เป็นกระดูกอ่อนซี่โครงจะเหมาะกว่า เพราะมีความแข็งแรง และมีจำนวนกระดูกที่มากกว่า ทำให้สามารถใช้ในการเสริมจมูกได้โดยไม่ต้องกังวล การใช้กระดูกอ่อนซี่โครง สามารถใช้กับการปรับทรงจมูกได้หลากหลายทรง เช่น จมูกทรงสั้น ทรงเตี้ย จมูกแบน หรือจมูกไม่สมมาตร ยิ่งที่กลัวปัญหาหลังเสริมจมูกควรอย่างยิ่งที่จะใช้กระดูกอ่อนนำมารองปลายจมูก แต่ทางที่ดีควรเข้าไปปรึกษากับแพทย์ เพื่อประเมิน และแนะนำรูปแบบการเสริมจมูกที่เหมาะกับคุณ เนื่องจากรูปจมูก และปัญหาจมูกของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับจมูกของเราเองจึงดีที่สุด

การเสริมจมูกแบบโอเพ่นเหมาะกับใครบ้าง ?

การเสริมจมูกในเทคนิคนี้สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกได้จึงเหมาะกับคนไข้ที่มีลักษณะของจมูกได้แก่

  1. คนไข้ที่มีเนื้อจมูกมีน้อย จมูกสั้น ทรงจมูกหมู
  2. คนไข้ที่จมูกเดิมทรงไม่สวย ไม่มีหยดน้ำ
  3. คนไข้ต้องการทรงจมูกที่เรียวยาวขึ้น
  4. คนไข้ที่มีปัญหากระดูกจมูกเบี้ยวคดผิดรูป จ
  5. คนไข้ที่มีทรงจมูกฮัมพ์สูง หรือปลายจมูกงุ้ม
  6. คนไข้ที่ต้องการเสริมเปลี่ยนทรงให้สโลปปลายพุ่ง
  7. คนไข้ที่มีปลายจมูกบาน หนาใหญ่ ทรงชมพู่
  8. คนไข้ที่มีรูปจมูกไม่ได้สัดส่วน
  9. คนไข้รูจมูกไม่เท่ากัน หรือ มีปัญหาทางเดินหายใจ

การเสริมจมูกแบบโอเพ่นไม่เหมาะกับใครบ้าง ?

  • สตรีตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่อายุไม่ถึง 18 ปี หรือยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าไม่เต็มที่
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการผ่าตัด ได้แก่ ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV
  • ผู้ที่เป็นหวัด มีแผลติดเชื้อ (ควรรักษาให้หายก่อน)
  • ผู้ที่มีแพลนจะจัดฟัน ควรจัดฟันให้เรียบร้อยเสร็จก่อน เพราะการจัดฟันมีส่วนทำให้จมูกดูโด่งขึ้นจากการที่แนวฟันถูกบีบให้เล็กลงได้ครับ
  • ผู้ที่มีการใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่าง ๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

ข้อควรรู้ก่อนเสริมจมูกแบบโอเพ่น

  1. เป็นการผ่าตัดที่ยากและซับซ้อนจึงใช้เวลานาน 
  2. ราคาแพงกว่าเสริมจมูกทั่วไป 
  3. คนไข้ต้องดูแลรักษาแผลอย่างระมัดระวัง
  4. มีแผลผ่าตัดภายนอกที่มองเห็นได้บริเวณด้านหน้าจมูก ( Columellar incision )
  5. ในการผ่าตัดมีการใช้ยาสลบในการผ่าตัด จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง
  6. ในการเสริมจมูกแบบโอเพ่นจำเป็นต้องเลือกแพทย์ที่มีเชี่ยวชาญสูงเท่านั้น
  7. ใช้เวลาพักฟื้นนาน
  8.  ระวังการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก งดการนอนราบ 1 เดือนและไม่ควรเล่นมือถือระหว่างนอน เพื่อป้องกันมือถือตกใส่บริเวณใบหน้า
  9. อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการทำได้ โดยภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังทำมักจะเกิดขึ้นได้จากคนไข้ที่ดูแลแผลไม่ดี ในบางคนอาจมีปฏิกิริยาของร่างกายต่อซิลิโคนค่อนข้างมากทำให้มีการหดรัดแกนมากเกินไปจนเห็นขอบซิลิโคนชัด ถึงแม้ว่าแพทย์จะมีความเชี่ยวชาญ และสามารถเหลาซิลิโคนอย่างดีแล้วก็ตาม คนไข้ก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ดังนี้
    • ผลติดเชื้อ อักเสบ สามารถเกิดขึ้นหากมีการกระทบกระแทกที่จมูก
    • มีเลือดออกที่บริเวณผ่าตัด
    • ปวดและบวมช้ำ โดยจะเกิดขึ้นได้ในช่วง 2-3 วัน แต่ถ้าหากผ่านไป 7-14 วันแล้วยังบวมขึ้นเรื่อย ๆ ควรรีบพบแพทย์
    • ตึงที่บริเวณจมูก แต่อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเริ่มเข้าที่
    • ได้กลิ่นเลือดในจมูก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เมื่อแผลเริ่มหายอาการจะดีขึ้น
    • คันแผลหลังทำจมูก ไม่ควรเกาหรือขยี้ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อ

ข้อดีการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

  1. แก้จมูกได้แทบทุกรูปแบบ ในคนไข้แต่ละรายมักมีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขแตกต่างกันไป แต่การผ่าตัดแบบเปิด คุณหมอจะมองเข้าไปเห็นถึงโครงสร้างภายในจมูก ทำให้แก้ไขปัญหาได้ถูกจุดกว่า โดยเฉพาะปัญหาที่ซับซ้อน ปัญหาพังผืด จมูกบิดเบี้ยว รูปทรงไม่ได้ตามต้องการ
  2. โด่งพุ่ง สวยงามกว่า ฐานโครงสร้างจมูกของคนไทยนั้นไม่แข็งแรง จึงนิยมการทำเทคนิคปรับโครงสร้าง ด้วยการยืดผนังกั้นจมูก ซึ่งทำให้พื้นฐานจมูกแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้การทำเสริมจมูกโด่งพุ่งขึ้นด้วย
  3. เน้นเลาะสารเหลว/พังผืด สำหรับคนไข้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์จมูก ร้อยไหมจมูกมาก่อน มักจะทำให้เนื้อเยื่อจมูกผิดปกติไป เช่น บวม แดง สารเหลวไหลออกข้างจมูก ผิวจมูกไม่เรียบ จมูกเอียง หรือผิดรูปไป การจะเลาะสารเหลวและพังผืดเหล่านี้ออกให้หมด มักจำเป็นต้องใช้เทคนิคเปิด และความชำนาญของแพทย์
  4. ปลอดภัยในระยะยาว การปรับโครงสร้างจมูก ยืดผนังกั้นจมูก จะนำชิ้นส่วนกระดูกอ่อน (หรือวัสดุทดแทน) มาประกบที่กึ่งกลางระหว่างรูจมูก ทำให้โครงสร้างจมูกมีความแข็งแรงมากขึ้น แล้วจึงเสริมด้วยซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนเพิ่มเติม ทำให้การรองรับน้ำหนักดีขึ้น ส่งผลในเรื่องความปลอดภัยของจมูกระยะยาวดีขึ้น
  5. เป็นการผ่าตัดระดับมาตรฐานสากล ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ชื่อเรียกที่เราคุ้นเคยกันว่า การเสริมจมูกเทคนิคเกาหลี แท้จริงก็เป็นการผ่าตัดจมูกแบบเปิด ปรับโครงสร้างจมูก แทบทุกเคส เรียกว่าเป็นมาตรฐานสากล 

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกแบบโอเพ่น

  • งดสูบบุหรี่ 1 เดือนก่อนได้รับการผ่าตัด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด
  • งดรับประทานทานอาหารประเภทของหมักดอง และอาหารทะเล
  • งดทานวิตามินทุกชนิดก่อนการผ่าตัดเสริมจมูก โดยเฉพาะวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันรำข้าว, โสม, เมล็ดองุ่น, ใบแปะก๊วย อย่างน้อย1 เดือนก่อนผ่าตัด
  • ควรทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และงดแต่งหน้า ในวันผ่าตัด
  • เนื่องจากการเสริมจมูกแบบโอเพ่น เป็นการผ่าตัดร่วมกับยานอนหลับ คนไข้จะรู้สึกมึน ๆ หลังจากออกจากห้องผ่าตัด ดังนั้นควรมีญาติหรือเพื่อนมาด้วย เพื่อพากลับบ้านครับ

ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

หลังจากที่คนไข้ทำประวัติกับทางคลินิก ปรึกษาเรื่องทรงกับคุณหมอเรียบร้อยแล้ว จะมีการนัดเข้ามาผ่าตัด โดยเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่คลินิกเตรียมไว้ให้ จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาและดมยาสลบให้กับคนไข้ รอให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 10 นาที เมื่อคนไข้หลับ เจ้าหน้าที่พาเข้าห้องผ่าตัด

  1. แพทย์จะทำการเปิดแผลจากด้านหน้าตรงบริเวณฐานรูจมูกทั้งสองข้างจนเห็นแกนจมูก เพื่อทำการแก้ไขโครงสร้างจมูกจากด้านในโดยตรง
  2. กรณีที่มีเนื้อจมูกเยอะ ปลายหนา ต้องลดขนาดจมูก จะมีการเลาะไขมันปริเวณปลายจมูก (Defatting) เพื่อให้จมูกเรียวเล็กลง
  3. หากคนไข้เคยเสริมจมูกแบบไม่ผ่าตัด ด้วยการฉีดฟิลเลอร์จมูกมาก่อน แพทย์จะทำการเลาะสารเหลว เลาะสารตกค้าง ซิลิโคนเหลว หรือพังผืดที่เกาะตามผิวจมูกออก
  4. แพทย์ทำการแก้ไขปรับโครงสร้างจมูก ตามความเหมาะสมในแต่ละเคส และเทคนิคที่เหมาะสม
  5. หลังจากแก้ไขจมูกเสร็จเรียบร้อยแพทย์จะทำการเย็บจมูกปิดแผล ดามเฝือกจมูก และให้ยาปฏิชีวนะ
  6. เมื่อคนไข้รู้สึกตัว ดีขึ้น สามารถเดินทางกลับบ้านได้ ไม่ต้องค้างคืน
  7. หลังจากนั้นแพทย์จะนัดติดตามผล ตัดไหม 7 วันขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกแบบโอเพ่น

  • หลังผ่าตัดเสร็จ คนไข้มีนัดฉีดยาฆ่าเชื้อ อีก 2 วันหลังทำ (หากคนไข้ที่อยู่ต่างจังหวัด หรือไม่สะดวกเข้ามาฉีดที่คลินิก สามารถนำยากลับไปฉีดที่คลินิก หรือรพ. ใกล้เคียงได้
  • หลังทำนอนหมอนสูง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ประคบเย็น 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมช้ำ และประคบอุ่นต่อ จนกว่าอาการบวมช้ำจะดีขึ้น
  • ทานยาให้หมด ตามคำสั่งของแพทย์
  • ทำความสะอาดแผลเอง โดยใช้แอลกอฮอล์ เบตาดีน ทุกเช้า – เย็น
  • แปะเฝือกไว้ 5 วัน
  • มีนัดตัดไหม 2 ครั้ง 7 วัน 14 วัน
  • งดการใส่แว่น หรือใส่แมส
  • งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ 1 เดือน
  • งดออกกำลังกาย 1 เดือน
  • ระมัดระวังเรื่องการทาน งดอาหารเสลง เช่นของหมักดอง สุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล อาหารกระป๋อง
  • ช่วง 2 สัปดาห์แรก ห้ามแผลโดนน้ำ จนกว่าจะตัดไหมและแผลแห้งสนิท พร้อมติดตามผลหลังทำ 1,3,6 เดือน

รีวิวเสริมจมูกแบบโอเพ่น

รีวิวเสริมจมูกแบบโอเพ่น Birkin’s Nose

เสริมจมูกแบบโอเพ่นที่ไหนดี ?

การตัดสินใจเสริมจมูกแบบโอเพ่นคนไข้ต้องศึกษาห่ข้อมูลก่อนเลือกคลินิกที่จะทำ และการเลือกเสริมจมูก ที่ Luxury Clinic ดียังไง ทำไมคนไข้ถึงต้องเลือก 

  1. ลักชูรี่คลินิก เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ได้รับการรับรองถูกต้องตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  2. แพทย์ขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างถูกต้องตามแพทยสภากำหนด 
  3. มีบริการปรึกษาก่อนผ่าตัดทุกเคส  สำหรับคนไข้ที่ต้องการเสริมจมูก ที่ we clinic สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษา เพื่อให้คุณหมอประเมินโดยตรง ทั้งปัญหาที่อยากแก้ไข และเรื่องรูปทรงที่อยากได้ คุณหมอจะได้ให้คำปรึกษา แนะนำ และวางแผนเรื่องการผ่าตัดในลำดับต่อไป 
  4. มี After care หลังจากที่คนไข้ผ่าตัดเสร็จ ทางให้เราได้ดูแลบริการและดูแลอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีนัด Follow up ทุก ๆ 1,3,6 เดือน อีกด้วย
  5. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่น่าเชื่อถือ ทาง Luxury Clinic มีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการจริง และไม่ได้มีรีวิวเสริมจมูกที่มาจากคลินิกเพียงอย่างเดียว มีรีวิวในเว็บไซต์ Facebook Review, pantip, Wongnai เพื่อให้คนไข้มั่นใจที่จะตัดสินใจทำที่คลินิกเรา

คำถามที่พบบ่อย

Q : สามารถตัดปีกจมูกพร้อมเสริมจมูกแบบโอเพ่นได้ไหม ?

A : ในการเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะช่วยลดปัญหาของจมูกที่มีลักษณะเนื้อปลายหนา แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องของจมูกบาน คนไข้ที่มีปลายจมูกที่บานต้องการลดปีกจมูก จึงสามารถทำได้ ทั้งนี้ การตัดปีกจมูกแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละเคส


Q : การเสริมแบบนี้ต้องพักฟื้นนานไหม ?

A : เนื่องจากการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนและเปิดแผลด้านหน้าของจมูก การพักฟื้นตัวและดูแลแผลจึงอาจใช้เวลานานกว่าการเสริมจมูกแบบทั่วไป และต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ ตามคำแนะนำของแพทย์


Q : คนจัดฟันห้ามเสริมจมูกแบบโอเพ่นจริงไหม ?

A : ในกรณีนี้คนไข้หลายคนต่างสงสัยว่าบางที่บิกว่าสามารถทำได้ บางที่บอกทำไม่ได้ วันนี้ลักชูรี่คลินิกจะคลายความสงสัย จริงๆแล้วคนไข้ที่จัดฟันแบบลวดสามารถเสริมจมูกได้จะก่อนหรือหลังดัดฟันก็ได้ แต่หากคนไข้ที่มีการจัดฟันโดยการผ่าตัดกระดูกขากรรไกรหรือกระดูกรามร่วมด้วย แนะนำว่าจัดฟันให้เสร็จก่อน เพราะการผ่าตัดนี้จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า


Q : คนเป็นภูมิแพ้เสริมจมูกได้ไหม ?

A : สามารถเสริมจมูกได้ แต่หลังจากการผ่าตัดควรระมัดระวังสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้มากขึ้น เนื่องจากในระหว่างการผ่าตัดแพทย์จะเปิดแผลในช่องจมูก จึงทำให้คนไข้มีอาการคัดจมูก คันและจาม หรือน้ำมูกไหลบ่อย ๆ กว่าปกติ และอาจเพิ่มความเสี่ยงให้แผลเกิดการติดเชื้อได้


Q : รอยฟกช้ำ รอยเขียว จะหายเมื่อไหร่ ?

A : อาการบวมหรือรอยช้ำหลังเสริมจมูกจะจางหายเร็วช้าขึ้นกับแต่ละบุคคล  แต่โดยปกติแล้วรอยเขียวช้ำบริเวณจมูกหรือใต้ตาจะเริ่มยุบลงภายใน 7 วัน  

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *