เสริมหน้าอก ไม่จำกัด CC ไม่จำกัดไซซ์ ชิดพอ ไม่ง้อดัน

เสริมหน้าอก

ในปัจจุบันการเสริมหน้าอกถือเป็นทางเลือกใหม่ ที่เป็นที่นิยมไม่น้อยเพราะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับสาวๆที่มีขนาดหน้าอกเล็กให้ดูดีขึ้น และยังช่วยปรับบุคลิกภาพสัดส่วนของร่างกายให้ดูดีขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้การเสริมหน้าอกมีหลากหลายทางเลือกปัจจัยสำคัญในการเข้ารับบริการเสริมหน้าอกนั้น หากจะให้ปลอดภัยต้องทำการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงจะดีที่สุด นอกจากจะพิจารณาทางด้านมาตรฐานแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ ซิลิโคนเสริมหน้าอกนั่นเอง

สารบัญ เสริมหน้าอก

เสริมหน้าอก คืออะไร?

การเสริมหน้าอกหรือการทำนม เป็นวิธีการผ่าตัดที่ทำได้โดยใส่ถุงซิลิโคนหรือถุงน้ำเกลือเข้าไปที่ใต้หน้าอก ผลลัพธ์ที่ได้คือขนาดของหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น รูปร่างของหน้าอกที่สวยงามและเท่ากัน รวมถึงช่องอกที่ชัดเจนกว่าเดิม ส่งผลให้มีความมั่นใจในรูปร่างมากยิ่งขึ้น

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) เป็นการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปทรงของหน้าอกให้มีลักษณะที่สมส่วนกับสรีระของร่างกาย โดยการเสริมหน้าอกปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 วิธี คือ 

  • เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน (Breast implant)
  • เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Breast Enlargement Fat Transfer)
  • เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนร่วมกับไขมันตัวเอง (Composite Breast implant with Autologous Lipoplasty)

      ในการศัลยกรรมเสริมหน้าอกจะต้องปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการวางแผนการรักษาร่วมกัน ประเมินขนาด รูปทรงและพื้นผิวของซิลิโคน ตำแหน่งแผลผ่าตัด วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกให้เหมาะกับสรีระของตนเอง โดยแพทย์จะพิจารณาจากองค์ประกอบของร่างกายแต่ละบุคคลเพื่อความปลอดภัยร่วมถึงความสวยงามตามที่คนไข้ต้องการ 

เทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอก Luxury Clinic

คือ เทคนิค Angel Breast เป็นเทคนิคใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้การผ่าตัดเสริมหน้าอกง่ายดายขึ้น เพราะแผลเล็ก สามารถใส่ซิลิโคนเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว ลดอัตราการติดเชื้อ ลดการเสียดสีบริเวณผิวหนังระหว่างผ่าตัด เทคนิคใส่ซิลิโคนโดยใช้กรวย เพิ่มประสิทธิภาพระหว่างการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ ลดบวม แผลเล็ก ลดอาการติดเชื้อ

เสริมหน้าอก

ชนิดของซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอก

แบ่งตามรูปทรง ได้เป็น 3ประเภท ได้แก่

  • ทรงหยดน้ำ (teardrop, anatomical breast implant) เป็นรูปคล้ายหยดน้ำ ด้านบนไม่นูน แต่ป่องออกทางด้านล่าง ทำให้ดูคล้ายหน้าอกธรรมชาติ ซิลิโคนชนิดนี้มีแต่ผิวทรายเท่านั้น เหมาะกับคนที่ผอม และต้องการเสริมนมให้สวยแบบดูเป็นธรรมชาติ เนินอกไม่สูง ไม่เป็นก้อน สำหรับการผ่าตัดซิลิโคนชนิดนี้ ควรผ่าทางใต้ราวนมเท่านั้น เพื่อให้ตำแหน่งการวางซิลิโคนที่แม่นยำ
  • ทรงกลม (round implant) มีทั้งผิวเรียบ และผิวทราย เป็นชนิดที่นิยมใช้มาก เพราะได้เนินอกที่สวย ได้ขนาดที่ใหญ่ตามต้องการ ผ่าตัดได้ง่ายกว่าการใช้ทรงหยดน้ำ และราคาถูกกว่า โดยจะมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ เช่น Mentor, Sebbin, Allergan, Eurosilicone, Motiva, Silimed, Bellagel ที่วันใหม่คลินิก เราใช้ซิลิโคนผิวเรียบเกือบทั้งหมดในการศัลยกรรมหน้าอก เนื่องจากปลอดภัยไม่เสี่ยงมะเร็งทุกชนิด
  • ทรง ergonomix เป็นซิลิโคนชนิดใหม่ที่เปลี่ยนตามสรีระของร่างกาย ขณะที่นั่ง จะดูเป็นทรงหยดน้ำ ส่วนเวลานอนจะดูเป็นทรงกลม เนื่องจากเจลภายในมีคุณสมบัติต่างไปจากเจลของซิลิโคนทรงกลมอื่น ๆ เนื้อเจลค่อนข้างแน่น ไม่เหลว เหมือนซิลิโคนทรงกลมทั่วไป ปัจจุบันมีแต่ซิลิโคนของ Motiva รุ่น ergonomix ที่เป็นลักษณะนี้เท่านั้น

แบ่งตามผิวซิลิโคน ได้เป็น 3 แบบ ดังนี้

  • ผิวเรียบ (Smooth)  ผิวค่อนข้างบาง ซิลิโคนจะนิ่มมากกว่าเนื้อนมธรรมชาติ ไม่เสี่ยงต่อมะเร็งทุกชนิด ทว่าการศัลยกรรมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวเรียบเองก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน มีความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะไหลออกข้างได้ง่าย, โอกาสรั่ว และโอกาสเกิดผังผืด หรือนมแข็งได้มากกว่าซิลิโคนผิวอื่นค่อนข้างมาก อาจสูงถึง 20% ในกรณีใส่เหนือกล้ามเนื้อ
  • ผิวทราย (Textured) เกิดผังผืดได้ต่ำ ผิวค่อนข้างหนา โอกาสรั่วน้อย แต่มีปัญหาเรื่องการเป็นริ้ว และเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด ALCL รอบซิลิโคนได้ ปัจจุบันจึงนิยมศัลยกรรมหน้าอกด้วยการใช้ซิลิโคนแบบผิวทรายกันน้อยลงมาก ซิลิโคนที่มีแต่ผิวทราย ได้แก่ Sebbin, Silimed
  • ผิวผสม (Nanotechnology) เป็นซิลิโคนรุ่นใหม่ ผิวค่อนข้างหนา โอกาสรั่วน้อย ลดโอกาสเกิดพังผืดได้ดี และยังไม่มีกรณีที่เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นผิวลิขสิทธิ์เฉพาะของซิลิโคน Motiva  แต่เนื่องจากเป็นซิลิโคนรุ่นใหม่ จึงยังมีราคาค่อนข้างสูงมากกว่าซิลิโคนอื่น

วิธีเลือกขนาดไซซ์ซิลิโคนเสริมหน้าอก

บางคนอาจมีความคิดว่าถ้าจะเจ็บตัวทั้งทีควรทำให้ใหญ่ไปเลย แต่ในความจริงแล้วการเลือกขนาดของซิลิโคนควรคำนึงถึงสรีระของเราด้วย เนื่องจากขนาดที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดผลเสียตามมา เช่น หน้าอกที่ใหญ่เกินไป จะทำให้รู้สึกแน่น หายใจไม่ออก และปวดหลัง
เกิดปัญหาหัวนมชา เนื่องจากซิลิโคนขนาดใหญ่ไปเบียดหัวนมและเส้นประสาท ยิ่งขนาดใหญ่มากโอกาสที่นมจะแข็งเพราะพังผืดรัดตัวก็ยิ่งสูงขึ้น

โดยการเลือกขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม ศัลยแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์และประเมินจากปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่

  1. ขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว
  2. การวัดขนาดรอบอก วัดเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าอก วัดความสูงหน้าอก วัดระยะจากหัวนมถึงฐานนม
  3. ลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิม เช่น ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิวหนัง และไขมันบริเวณหน้าอก

การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก

การศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายคนเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความสวยงามให้กับรูปร่างของตัวเอง แต่หลายคนก็ยังลังเลถึงผลที่จะตามมา ไม่แน่ใจว่าจะทำดีไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า และต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง? และนี่คือข้อสำคัญที่ควรรู้และทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก

  1. ต้องรู้ด้วยว่าซิลิโคนที่จะใส่เข้าไปอยู่ส่วนไหนของหน้าอก ตำแหน่งของซิลิโคนจะมี 2 แบบด้วยกันคือ
    – วางไว้ใต้กล้ามเนื้อ ซึ่งการวางไว้ใต้กล้ามเนื้อจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเนื้อหน้าอก ต้องใส่ซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อเพื่อเอาเนื้อหน้าอกมาคลุมเนื้อซิลิโคน และป้องกันการการเต้านมแข็ง หลังผ่าตัดจะค่อนข้างเจ็บมากและยกแขนได้ลำบากในช่วงแรก
    – วางไว้บนกล้ามเนื้อจะเหมาะกับผู้หญิงที่มีเนื้อหน้าอกอยู่แล้ว พราะคนไข้มีเนื้อหน้าอกอยู่แล้ว การใส่เหนือกล้ามเนื้อจะช่วยยกทรงและแก้ปัญหาเต้านมคล้อยได้ คนที่ใส่ซิลิโคนเหนือเต้านมจะเจ็บน้อยกว่า และใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 อาทิตย์
  2. ใส่ใจในการเลือกคลินิก เลือกแพทย์เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากการผ่าตัดหน้าอกถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องมีการฉีดยาชาและดมยาสลบก่อนผ่าตัด จึงต้องทำในห้องผ่าตัดที่ได้รับมาตรฐานและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  3. ก่อนผ่าตัดใหญ่ต้องงดน้ำและอาหาร 12 ชั่วโมง
  4. งดยาบางชนิด งดทานอาหารเสริม หรือวิตามินที่มีผลให้เลือดไม่แข็งตัวหรือหยุดไหลช้า
  5. หยุดสูบบุหรี่และหยุดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง1 เดือน ก่อนผ่าตัด
  6. ควรมาเตรียมตัวก่อนเวลาผ่าตัด 1 ชั่วโมง
  7. ควรเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก ทำความสะอาดร่างกายอาบน้ำสระผมให้เรียบร้อย เพราะหลังจากทำไปแล้วไม่สามารถโดนน้ำได้
  8. งดใส่คอนแทคเลส์ งดแต่งหน้า งดทาเล็บ งดทาโลชั่น
  9. กรุณาเก็บสิ่งของมีค่าไว้ที่บ้าน
  10. สวมเสื้อผ้าที่มีลักษณะหลวม หรือมีซิบหรือกระดุมด้านหน้า ไม่ควรใส่ชุดหรือกางเกงรัดรูป เพื่อสะดวกต่อการสวมใส่ชุดหลังทำ
  11. ไม่ควรขับรถมาเองผู้เดียว ต้องมีผู้ติดตาม หรือญาติมาด้วยในวันที่ผ่าตัด
  12. เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป
  13. ซิลิโคนอยู่ได้นานเป็น 10 ปีหากดูแลตัวเองดี
เสริมหน้าอก

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอก

การผ่าตัดเสริมหน้าอก ใช้ระยะเวลาผ่าตัดประมาณ 2-4 ชั่วโมง โดยให้คนไข้ดมยาสลบ เพื่อความสะดวกในการผ่าตัด หลังจากนั้นแพทย์จะ ผ่าตัดเปิดแผลที่รักแร้ ปานนม หรือใต้ราวนม แล้วแต่ว่าจะตกลงกับคนไข้ว่าอย่างไร โดยปัจจุบันนี้มักนิยมผ่าตัดเข้าทางรักแร้ มากที่สุด เนื่องจากสามารถหลีกเลี่ยงแผลบนเนินอกได้ดีกว่า หลังจากนั้นแพทย์จะแหวกเนื้อเต้านมและกล้ามเนื้อแผงอกให้แยกออกจากกัน เป็นช่องกว้างขนาดพอเหมาะที่จะใส่ถุงซิลิโคน ที่เลือกเอาไว้ได้ เมื่อห้ามเลือดเรียบร้อยแล้ว แพทย์จึงจะค่อยๆใส่ ถุงนมเทียม เข้าไปทีละน้อยจนหมด เมื่อจัดรูปทรงเข้าที่แล้ว จึงเย็บแผลปิดด้วยไหมเล็กๆ จะเป็นไหมละลายหรือไม่ละลายก็ได้ 

ภาวะแทรกซ้อนหลังการเสริมหน้าอก

ภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการเสริมหน้าอก ได้แก่ 

  • มีอาการชา หรือเจ็บแปลบๆ บริเวณเต้านมหรือหัวนม อาการดังกล่าวจะดีขึ้น 3-6 เดือน
  • ขนาดของเต้านมจะไม่เท่ากัน ซึ่งเต้านม 2 ข้าง จะดูไกล้เคียงกันและเป็นธรรมชาติต้องใช้เวลาซักระยะโดยประมาณ 1-2 เดือน
  • อาการปวด หากเป็นการเสริมแบบเหนือกล้ามเนื้อจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ส่วนใต้กล้ามเนื้ออาจจะประมาณ 2-3 สัปดาห์
  • อาการคันรอบเต้านม เกิดเนื่องจากผิวหนังมีการตึงขึ้นจากการขยายตัวของเต้านม สามารถใช้โลชั่นทาได้ อาการจะดีขึ้น 1-2 สัปดาห์
  • อาการบวมตึง จะค่อยๆลดลง ใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์
  • อาการเขียวช้ำ จะค่อยลดลง ประมาณ 3 สัปดาห์

การดูแลหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก

  1. หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกคนไข้จะได้พักฟื้น1 คืน เพื่อจะดูอาการหลังทำ โดยคนไข้จะได้รับยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยานอนหลับ หรือตามคำชี้แนะของแพทย์ เมื่ออาการคงที่แล้ว ก็สามารถกลับบ้านได้ และแพทย์จะนัดมาตรวจหน้าอก ในอีกประมาณ 7 วันหลังจากทำ
  2. หลังจากผ่าตัด อาจมีอาการปวดระบมบริเวณหน้าอก และบริเวณรักแร้ทั้ง 2 ข้าง ประมาณ 2-3 วันหลังผ่าตัดเสร็จสิ้น สามารถบรรเทาอาการได้จากการทานยาลดปวด
  3. ในวันแรกภายหลังผ่าตัด แพทย์จะเอาสายระบายน้ำเหลืองออก และแกะผ้าพันหน้าอกออกให้ และพันกลับไปใหม่ในลักษณะเหมือนเดิม
  4. ใส่ชุดชั้นในที่เป็นแบบสปอร์ตบรา หรือชุดชั้นในแบบไม่มีโครงตลอดเวลา ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากการผ่าตัดเสริมหน้าอก
  5. หมั่นนวดหน้าอก เพื่อป้องกันการเกิดพังพืดหดรัดหลังการผ่าตัดโดย แนะนำให้คนไข้เริ่มนวดหน้าอก ในวันที่ 7 ภายหลังตัดไหม โดยวันละราวๆ 2 – 3 ครั้ง ระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์
  6. งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ รวมทั้งของหมักดอง อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  7. รับประทานยาฆ่าเชื้อติดต่อกันทุกวันทุกมื้อจนหมด

ทำไมต้องเลือกเสริมหน้าอกที่ Luxury Clinic

สิ่งสำคัญในตัดสินใจเลือกการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ควรพิจารณาเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานได้รับใบอนุญาตถูกต้อง เลือกศัลยแพทย์เฉพาะทาง และซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมหน้าอกที่ได้รับการรับรององค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา US FDA  และประเทศไทย เพื่อให้การศัลยกรรมเสริมหน้าอกปลอดภัยและได้รูปทรงหน้าอกตามที่ต้องการ ซึ่ง Luxury Clinic ให้ความสำคัญกับคนไข้ด้วยเช่นกันนอกจากจะมีบริการที่ได้รับมาตรฐานแล้ว ยังคงเน้นผลลัพธ์ของคนไข้ ซึ่งคนไข้จะต้องได้รับการดูแลและมีศัลยแพทย์ผ่าตัดให้

คำถามที่พบบ่อย (Q&A)

Q : ซิลิโคนจะแข็งไหม ต้องนวดบ่อยไหม?
A : การจะมีหน้าอกที่ดูเป็นธรรมชาติ รูปทรงสวยเข้าที่ นุ่มนิ่ม เต่งตึง คือ การนวดที่ถูกวิธี นวดอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ ควรมีการนวดอย่างสม่ำเสมอในช่วงหนึ่งปีแรกเช้า-เย็น โดยวิธีนวดมีดังนี้

  • ใช้มือดันซิลิโคน จากด้านนอกเข้าด้านใน เซ็ทละ10-15 ครั้ง, เช้า-เย็น
  • ใช้นิ้วบีบขอบบนซิลิโคน ให้รู้สึกได้ว่าชิ้นซิลิโคนมีการเคลื่อนที่
  • นวดวนรอบๆ เต้านม จะนวดคลึงแบบ ตามเข็มนาฬิกา หรือ ทวนเข็มนาฬิกาก็ได้ ส่วนนี้ ถ้านวดได้ดี จะทำให้เนื้อนมนิ่มไว ไม่แข็งตึง
  • ใส่ซัพพอร์ตบรา และแถบรัดหน้าอก อย่างต่ำ 3 เดือน

Q : ต้องใส่ซัพพอร์ทบรา นานแค่ไหน?
A : ควรใส่ซัพพอร์ทบราตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 3 เดือนแรกของการผ่าตัด 


Q : หลังเสริมหน้าอกสามารถให้นมลูกได้ไหม?
A : หลังเสริมหน้าอกแล้วสามารถให้นมบุตรได้ 


Q : เสริมหน้าอกแล้วมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้นหรือไม่?
A : วัสดุที่ใช้เป็นถุงซิลิโคนที่ได้มาตรฐานนั้น ไม่ใช่สารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง และไม่ได้เพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านม นอกจากนี้หลังเสริมหน้าอกแล้วเราสามารถตรวจเช็คมะเร็งเต้านม ทำแมมโมแกรม (Mammogram) อัลตราซาวน์ (Ultrasound) เพื่อคัดกรองการเกิดมะเร็งเต้านมได้ตามปกติ


Q : หลังเสริมหน้าอกทานอะไรได้บ้าง?
A : สามารถทานอาหารทานปกติได้ทุกชนิด แต่หากควรงดปลาร้า ของหมักดอง และแอลกอฮอลล์


Q : อายุต่ำกว่า 18 สามารถเสริมหน้าอกได้ไหม?
A :  แพทย์แนะนำว่าผ่าตัดหลังจากอายุ 17 ปี ขึ้นไปจะมีรูปทรงที่สวยกว่า เพื่อรอให้เต้านมเจริญเติบโตเต็มที่ก่อน แต่สามารถทำได้แต่หากต้องได้รับการรับรองจากผู้ปกครองแล้ว

รีวิวจากลูกค้า

เสริมหน้าอก