ศัลยกรรมหูกาง (Otoplasty) ตกแต่งใบหูให้เข้ากับใบหน้า สวยได้สัดส่วน

แก้ไขหูกาง , ศัลยกรรมหูกาง , หูกางเกิดจากอะไร

“ใบหู” เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่รับรู้การได้ยินเสียงมีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ หูชั้นนอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน ซึ่งหูจะทำให้เกิดการได้ยินและเข้าใจความหมายขณะสื่อสารกัน และใบหู ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญข้างใบหน้า ถึงจะไม่ผลต่อรูปใบหน้า แต่ก็สามารถเป็นปัญหากวนใจและทำให้เกิดความไม่มั่นใจสำหรับบางคนที่มองว่าจุดด้อยได้เช่นกัน โดยอาจมีลักษณะใบหูมีขนาดใหญ่หรือกางเกินกว่าปกติของลักษณะใบหูที่สมส่วน 

สารบัญ

หูกางคืออะไร?

คือใบหูที่มีรูปลักษณะผิดปกติ โดยมุมใบหูมีความกว้างออกจากศรีษะมากกว่าปกติ ทำให้มีรูปใบหูใหญ่ กางออก มีรูปไม่สวย  ทำให้ใบหน้าไม่สมส่วน ซึ่งปกติแล้วใบหูของคนเรามีรูปลักษณะแนบไปด้านหลังโดยใบหูจะชิดกับศรีษะ ทำมุม 25 – 35 องศา เท่ากันทั้งสองข้าง ซึ่งขอบใบหูจะพับไปด้านหลังเล็กน้อยห่างจากศรีษะประมาณ 1.5 – 2 ซม. หากคุณมีใบหูลักษณะต่างจากนี้ สามารถแก้ไขหูกางได้โดยการศัลยกรรมตัดแต่งใบ จากข้อความข้างต้นทำให้ทราบแล้วว่าหูกางคืออะไร ดังนั้นเราจะอธิบายเพิ่มเติมถึงสาเหตุของการเกิดหูกาง

หูกางเกิดจากอะไร?

โดยส่วนใหญ่สาเหตุเกิดจากโครงกระดูกอ่อนใบหูไม่พับ หรือมีความแข็งกว่าปกติจึงทำให้ใบหูไม่พับตามลักษณะแบบที่ควรเป็น อีกทั้งหูกางยังส่งต่อได้จากทางพันธุกรรม ทำให้หูกางเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งในส่วนนี้เด็กสามารถการแก้ไขหูกางได้ตั้งแต่อายุประมาณ 6 ขวบขึ้นไป เนื่องจากโครงกระดูกของใบหูนั้นจะมีขนาดโตเต็มที่เท่ากับผู้ใหญ่แล้ว

ลักษณะหูกาง

มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แต่สามารถแก้ไขใบหูได้ด้วยการศัลยกรรมตกแต่งใบหู โดยแยกออกเป็นลักษณะต่างๆดังต่อไปนี้

  • กางเฉพาะตรงยอดหู (Helix)  ที่กางออกมามากจนเกินไป
  • กางตรงยอดหูและกลางหู (Anti helix) มีลักษณะแบนและมุมกางเกินไป
  • กางทั้งใบหู ยอดหู กลางหู และติ่งหู (Concha) มีขนาดใหญ่หรือลึกเกินไป

โครงสร้างของใบหู

ในส่วนนี้จะจำแนกให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าโครงสร้างของใบหู เป็นสิ่งบ่งบอกลักษณะใบหูในบริเวณไหนที่ทำให้รูปหูผิดปกติ โดยแบ่งออกเป็น 

  1. Helix คือบริเวณกระดูกอ่อน ตำแหน่งอยู่ที่ริมใบหู หรือขอบนอกของใบหู 
  2. Anti helix คือบริเวณขอบกลางของใบหู บริเวณนี่คือจุดที่สามารถสังเกตได้ง่าย เพราะเป็นบริเวณที่ใบหูมีมุมกางออก และยังเป็นโครงสร้างที่บ่งบอกได้หากกระดูกอ่อนของใบหูที่เรียกว่า Anti helix ไม่อ่อนตัว ไม่พับไปทางด้านหลังซึ่งวิธีการแก้ไขคือ การผ่าตัดตกแต่งใบหู (otoplasty)
  3. Scapha คือบริเวณร่องหู ตำแหน่งอยู่ตรงกลางระหว่างขอบนอกกับขอบกลางของใบหู
  4. Concha คือบริเวณที่อยู่ระหว่างขอบรูหูและขอบกลาง จุดนี้มีรูปร่างคล้ายถ้วยจึงเรียกว่าใบหูถ้วยคองกา 
  5. Lobe คือติ่งหู 
  6. Tragus คือส่วนติ่งเล็กตรงขอบหน้ารูหู

ความผิดปกติของรูปร่างใบหู

ความผิดปกติเกิดจากส่วนต่างๆ ของใบหูมีรูปร่างผิดแปลกไป โดยอาจผิดปกติได้ทั้งรูปร่างของใบหู  ขนาดใบหู หรือตำแหน่งใบหู เช่น

  1. รูปร่างของใบหูตั้งฉากกับส่วนของศีรษะมากกว่าปกติ
  2. มีใบหูใหญ่ผิดปกติ
  3. มีใบหูด้านบนม้วนกลมเป็นรูปถ้วย
  4. มีรูปร่างของใบหูที่ส่วนโค้งด้านบนผิดปกติ

ตามข้อความข้างต้นที่กล่าวมานั้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาและต้องการแก้ไข สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และไม่ควรคิดว่าการใช้กาวติดใบหูเป็นการแก้ปัญได้ดี เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังส่งผลเสี่ยงต่อการเกิดผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ และผลแทรกซ้อนอื่นๆ

เทคนิคการแก้ไขหูกาง

ในปัจจุบันการศัลยกรรมตกแต่งหู สามารถแก้ไขโดยการเปิดแผลตามแนวหลังใบหู เพื่อตัดแต่งเย็บกระดูกอ่อนของใบหูให้แนบกับผิวหนังศรีษะ ไม่ว่าจะแก้ขนาด เปลี่ยนรูปร่างใบหู หรือปรับตำแหน่งหู ในบางกรณีอาจต้องตัดบางส่วนของหูที่เป็นปัญหาออก เพื่อให้ได้รูปใบหูที่ต้องการ เมื่อปรับแก้ไขไปแล้วก็จะได้รูปทรงที่สมส่วนเข้ากับใบหน้าของคนไข้ ทำให้คนไข้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ไม่กังวลเรื่องการไว้ทรงผมหรือจัดทรงผมอีกต่อไป อีกทั้งยังไม่ต้องคอยระแวงหรือกังวลใจที่จะถูกล้อเลียนหรือตั้งฉายา การผ่าตัดตกแต่งใบหูเป็นการรรักษาที่เห็นผลได้ชัดเจนที่สุดและปลอดภัยสำหรับคนไข้ อีกทั้งเป็นที่ยอมรับมากขึ้นและในยุคนี้เทคนิคการผ่าตัดก็มีหลากหลายวิธี โดยการรักษาคนไข้ควรจะเข้าพบแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อให้แพทย์วิเคาระห์เลือกวิธีผ่าตัดอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงปัญหาของคนไข้จากความผิดปกติมากน้อย ส่วนที่ต้องแก้ไข ดังนั้นก่อนเข้ารับการผ่าตัดคนไข้ต้องบอกความต้องการอย่างชัดเจนกับแพทย์ที่ปรึกษา ว่าต้องผลลัพธ์แบบใด และอยากแก้ไขในส่วนใดบ้าง 

เทคนิคแก้ไขหูกาง แผลเล็ก แผลสวย

การผ่าตัดตกแต่งใบหู ถือเป็นการผ่าตัดเล็กแต่ก็มีความสำคัญ หลังจากคำนึงถึงความต้องการของคนไข้แล้ว แพทย์จะวิเคราะห์ความเหมาะสมในการผ่าตัด วิเคราะห์ความผิดปกติ รูปทรง ตำแหน่งของแต่ละข้าง ว่าคนไข้สามารถเลือกเทคนิคใดได้บ้างที่จะเหมาะสมกับความผิดปกตินั้นๆ เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด หูซ้ายและหูขวา อาจไม่เหมือนกัน เนื่องจากคนไข้ในบางกรณีหูทั้งสองข้างมีความปกติไม่เหมือนกันทั้งสองข้าง เช่นหูซ้ายกางน้อยกว่าหูขวา มุมที่แก้ไขก็จะไม่เท่ากันไปด้วย

สำหรับเทคนิคการผ่าตัดแก้ไขหูกางในปัจจุบัน มีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยเน้นผ่าตัดแก้ไขที่โครงสร้างกระดูกอ่อนมากยิ่งขึ้น เช่น การทำให้กระดูกอ่อน Antihelix โค้งตัว (cartilage scoring technique), การตัดและเย็บกระดูกอ่อน (cartilage cutting and suturing technique) จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์ถาวรมากขึ้น โอกาสกลับมาเป็นซ้ำ (recurrent) น้อยลง

เทคนิคซ่อนแผล ที่ Luxury clinic

การเลือกเทคนิคการผ่าตัดแก้ไขใบหูจะต้องวิเคราะห์ปัญหาก่อน แต่ไม่ว่าคนไข้จะมีปัญหาจากสาเหตุใดก็ตาม โดยส่วนมากคนไข้ทั่วไปต้องการมีแผลเล็ก สามารถซ่อนรอยแผลได้ ดังนั้นเทคนิคการซ่อนแผลของ Luxury  Clinic จึงสามารถตอบโจทย์คนไข้ เพราะเราเลือกการเย็บแผลอย่างประณีต เพื่อให้รูปทรงใบหูออกมาสวยงาม 

แก้ไขหูกาง , ศัลยกรรมหูกาง , หูกางเกิดจากอะไร

ใครที่เหมาะกับการแก้ไขหูกาง

หลังได้ทราบถึงสาเหตุและเทคนิคการแก้ไขตกแต่งใบหูแล้ว ในส่วนนี้เราจะกล่าวถึงการศัลยกรรมแก้ไขหูกางที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใดบ้าง และการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาและการประเมินของแพทย์ว่าสมควรผ่าตัดแก้ไขหรือไม่

  • ผู้ที่ใบหูที่กางมากกว่าปกติ
  • ผู้ที่มีตำแหน่งใบหูไม่สมมาตรกัน
  • ผู้ที่มีใบหูไม่สมมาตรกัน
  • ผู้ที่มีใบหูกางมากเกินไป
  • ผู้ที่มีลักษณะใบหูผิดรูป
  • ผู้ที่มีขนาดของใบหูไม่รับกับรูปหน้า
  • ผู้ที่รู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตนเอง
แก้ไขหูกาง , ศัลยกรรมหูกาง , หูกางเกิดจากอะไร

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้ไขหูกาง

ก่อนการเลือกตัดสินใจคลินิกที่จะเข้าทำนั้น คนไข้ยังจำเป็นต้องเตรียมตัวและมีข้อมูล เพื่อวางแผนการผ่าตัดให้ได้ตามความต้องการของคนไข้ ก่อนตัดสินใจและจองการผ่าตัดนั้นคนไข้ยังมีสิ่งที่ควรทราบหลายประการดังนี้

แก้ไขหูกาง , ศัลยกรรมหูกาง , หูกางเกิดจากอะไร
  1. ในต่างประเทศนั้นผู้ที่จะรับการผ่าตัดมักทำหลังอายุ 5 ปี ซึ่งในช่วงอายุเพียงแค่นี้มีหูที่เจริญเติบโตมากที่สุด และในประเทศไทยเราเองก็สามารถให้เด็กรับการรักษาได้เช่นกัน โดยทั่วไปจะทำในอายุ 6 ปีขึ้นไป ซึ่งก่อนรับการรักษาต้องผ่านการรับรองจากผู้ปกครองทุกขั้นตอน
  2. คนไข้เข้ารับการประเมินสุขภาพก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  3. แจ้งประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว เพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากการผ่าตัด
  4. คนไข้เข้ารับการตรวจสอบลักษณะของใบหู เพื่อประเมิณการรักษาให้ถูกวิธี ความต้องการของคนไข้เองด้วย รวมไปถึงความเสี่ยงและผลข้างเคียงหลังจากผ่าตัดไป ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำและชี้แจงข้อมูลให้คนไข้ได้ทราบ
  5. คนไข้ต้องควรงดการใช้ยาแก้อักเสบชนิดสเตียรอยด์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 1 อาทิตย์
  6. งดการใช้ยาแอสไพรินหรือยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน 1 อาทิตย์
  7. ควรงดอาหารและน้ำดื่ม ก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง
  8. กรณีที่คนไข้มีปัญการติดเชื้อของในหู ไม่สามารถเข้าผ่าตัดได้ ต้องได้รักษาให้หายก่อน
  9. แนะนำให้คนไข้ ควรมีผู้ติดตาม เช่น เพื่อนหรือครอบครัว
  10. งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 2 อาทิตย์
  11. ควรงดวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 1 อาทิตย์
  12. แจ้งข้อมูลโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนวันผ่าตัด
  13. ไม่สวมเครื่องประดับทุกชิ้นบนใบหู
  14. งดแต่งหน้าก่อนเข้าห้องผ่าตัด
  15. ไม่นำของมีค่าในวันผ่าตัด
  16. งดใส่คอนเทคเลนส์มาในวันผ่าตัด
  17. สวมใส่เสื้อผ้าที่สะดวกสบายต่อการถอด-ใส่ ในวันผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัดหูกาง

ขั้นตอนในก่อนเริ่มการผ่าตัด ทางคลินิกจะให้วิสัญญีแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อระงับความเจ็บปวดให้คนไข้ แต่หาก ในกรณีที่คนไข้มีความเสี่ยงบางอย่างอาจใช้วิธีดมยาสลบแทน ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมและ ในการผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง

แก้ไขหูกาง , ศัลยกรรมหูกาง , หูกางเกิดจากอะไร
  1. วาดมาร์คจุดบริเวณด้านหลังหู เพื่อตัดตกแต่งและวาดรูปกระดูกอ่อนของใบหูที่จะทำการแก้ไข
  2. จากนั้นผ่าตัดแก้ไขทรงของกระดูกอ่อน โดยการเย็บมุมของกระดูกอ่อนหรือใช้การผ่าตัดบนผิวกระดูกอ่อน เพื่อให้ใบหูของคนไข้อ่อนตัวลง และพับง่ายขึ้น
  3. ใช้ไหมเย็บติ่งหูเข้ากับกระดูกอ่อน
  4. เย็บปิดแผล โดยใช้ไหมขนาดเล็กและใช้เทคนิคเย็บซ่อนแผล
  5. ปิดแผลโดยใช้ผ้าก็อซปิดแผล พร้อมใช้ผ้ารัด (Face Support) หรือผ้าคาดผม 
  6. หลังการรักษาคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นที่คลินิก
  7. พักฟื้นแผลประมาณ 2 อาทิตย์ และนัดตัดไหมตามคำแนะนำของแพทย์

ภาวะแทรกซ้อนและความเสี่ยงหลังศัลยกรรมแก้ไขหูกาง

การผ่าตัดตกแต่งใบหูนั้น จำเป็นต้องทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญสูงเท่านั้น แต่ทั้งนี้ความเสี่ยงและผลข้างเคียงสามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยปัจจัยหลายอย่างๆ ซึ่งคนไข้ควรทราบในข้อนี้ด้วยเช่นกัน

  1. หลังผ่าตัดไปแล้วลักษณะของใบหูอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ ในกรณีคนไข้ที่มีปัญหาหูสองข้างไม่เท่ากัน ในส่วนนี้คนไข้ต้องปรึกษากับแพทย์ถึงวิธีการผ่าตัดแก้ไข
  2. การผ่าตัดที่พับงอใบหูมากเกินไป อาจทำให้ได้รูปทรงไม่สวยอย่างที่ต้องการ
  3. หลังการผ่าตัด มีแผลเป็นและอาจเป็นคีลอยด์ หรือแผลเป็นรอยตะเข็บ แต่เทคนิคของลักชูรี่ คลินิก เย็บแผลให้สังเกตเห็นได้ยาก
  4. แผลผ่าตัดสามารถติดเชื้อได้ หากมีอาการบวมแดงบริเวณหู เป็นหนอง หรือมีไข้ ควรไปพบแพทย์ทันที
  5. มีเลือดออกมากผิดปกติหรือมีก้อนเลือดบริเวณแผลผ่าตัด 
  6. ผลข้างเคียงจากยาสลบ เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน หรือเวียนศีรษะ เป็นต้น
  7. คนไข้อาจรู้สึกอาการชา หรือรับความรู้สึกได้น้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากบริเวณหูมีเส้นประสาทจำนวนมาก ผลข้างเคียงมักเกิดเพียงชั่วคราวเท่านั้น 
  8. มีโอกาสใบหูม้วนกลับ หากคนไข้ทำให้ใบหูหลุดออก
  9. มีอาการปวดแผลบ่อยๆ  แต่คนไข้สามารถทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวดได้
  10. การเด้งกลับของใบหู มีโอกาสเกิดขึ้นได้หากคนไข้ไม่ใช้ผ้ารัด (Face Support) หรือผ้าคาดผม

นอกจากนี้การศัลยกรรมแกไขตกแต่งใบหูอาจมีค่าใช้จ่ายสูงแล้วแต่ปัญหายากน้อยของคนไข้ ดังนั้น คนไข้ที่ต้องการรักษษจึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด

วิธีดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมหูกาง

วิธีปฎิบัติดูแลแผลหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการซึ่งคนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

แก้ไขหูกาง , ศัลยกรรมหูกาง , หูกางเกิดจากอะไร
  1. หลีกเลี่ยงแผลโดนน้ำใน 3 วันหลังผ่าตัด
  2. ในช่วงพักฟื้นคนไข้นอนหมอนสูงหัวสูง จะช่วยลดการปวดและลดการบวมได้
  3. งดการนอนตะแคงเพื่อป้องกันแผลโดนกดทับ 
  4. หลังผ่าตัด 2 วัน สามารถเปิดแผล ทำความสะอาดแผลได้ โโยต้องเช็ดแผลให้แห้งอย่างสม่ำเสมอ 
  5. หลังผ่าตัดไปแล้ว 3 วัน สระผมได้โดยการสระทางร้านทำผม
  6. หลังครบ 2 สัปดาห์ ให้มาตัดไหมตามนัดหมาย
  7. หลังตัดไหม คนไข้ควรให้ใส่ผ้ารัด (Face Support) หรือผ้าคาดผมอย่างสม่ำเสมอประมาณ 3 เดือนเพื่อกันหูเด้งกลับ
  8. ควรงดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องมีการกระทบกระเทือนศีรษะ
  9. งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 
  10. งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 อาทิตย์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี
  11. มาตามนัดเพื่อติดตามอาการ หลังทำ 7 วัน
  12. หลังตัดไหม สามารถใช้คอตตอนบัดเช็ดทำความสะอาดแผลด้านในได้
  13. หากคนไข้มีปัญหาเลือดออกผิดปกติ หรือแผลบวม ให้มาพบแพทย์ทันที
  14. รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ  หากเกิดการแพ้ยา ควรรีบพบแพทย์ทันที
  15. หากคนไข้มีอาการ คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้หยุดรับประทานทันที 
  16. งดทานอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารทะเล อาหารที่มีโซเดียมสูง
  17. งดสัมผัสแผลหรือแกะแผล

ทำไมต้องศัลยกรรมแก้ไขหูกางกับ Luxury Clinic

การตัดสินใจแก้ไขใบหูนั้น คนไข้ต้องพิจารณาหาข้อมูลต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้ารับการผ่าตัดแล้ว แต่อีกส่วนสำคัญหลักคือควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะด้านที่มีประสบการณ์ เนื่องจากหากได้รับการรักษาจากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้คนไข้ได้รับความเสียหายจากแผลผ่าตัด หรือลักษณะรูปร่างใบหูไม่ตรงตามความต้องการ รูปใบหูไม่สวยงาม ทรงใบหูผิดแปลกไปกว่าเดิมได้ ซึ่งเรียกว่า ทรงหูรูปโทรศัพท์ (Telephone ear) เมื่อคนไข้ได้รับผลกระทบนี้แล้วจึงกลายเป็นเรื่องที่เสียเวลาและหมดค่าใช้จ่ายไปอย่างน่าเสียดาย และต้องรับการแก้ไขใหม่อีกครั้ง เพราะฉะนั้นการเลือกสถานที่รักษาที่มีชื่อเสียง มีรีวิวจริง การดูแลคนไข้ของคลินิก  มีเจ้าหน้าที่สามารถให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน สถานที่สะอาดได้รับมาตรฐาน และมีเครื่องมือที่ทันสมัย จากข้อความทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทาง Luxury Clinic สามารถตอบโจทย์คนไข้ได้ครบถ้วน 

  • ทาง Luxury Clinic มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะทาง และได้รับใบอนุญาตในการประกอบอาชีพ 
  • ทาง Luxury Clinic มีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการผ่าตัด 
  • ทาง Luxury Clinic ใส่ใจและคำนึงถึงผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการเป็นหลัก 
  • ทาง Luxury Clinic มีห้องผ่าตัดที่ได้รับมาตรฐานระดับ 10 K  เป็นมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลชั้นนำ
  • ทาง Luxury Clinic ใช้เทคนิคแผลเล็ก ซ่อนแผลเย็บ แผลเนียน
  • ทาง Luxury Clinic มีรีวิวจริง ที่คนไข้สามารถหาข้อมูลได้
  • ทาง Luxury Clinic บริการคนไข้อย่างดีที่สุด ดูแลทั้งก่อนทำ-หลังทำอย่างเต็มใจ

รีวิวจากลูกค้าแก้ไขหูกาง

รีวิวหูกาง
รีวิวหูกาง
รีวิวหูกาง

คำถามที่พบบ่อย (Q&A)

Q : หลังทำจะมีแผลอยู่บริเวณใด ?

A :  รอยแผลจะซ่อนอยู่บริเวณหลังใบหู ตามแนวขอบกระดูกใบหู โดยแพทย์จะทำให้เกิดรอยเย็บขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


Q : หลังไปแล้วหูมีโอกาสจะเด้งกลับมาหรือไม่ ?

A : กรณีหูเด้งกลับ ส่วนใหญ่กว่าจะเด้งกลับต้องใช้เวลานาน หรือหูอาจจะเด้งออกมาเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าคนไข้ยังพอใจในลักษณะที่เกิดขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไข แต่ถ้ารู้สึกเด้งออกมามากจนทำให้ดูไม่สวยงาม ก็สามารถผ่าตัดซ่อมแก้ไขใหม่ได้ แต่จะต้องทิ้งระยะเวลาให้ผ่าน 3 เดือนแรกไป เพื่อให้แผลหายดีก่อน เพราะหากรีบแก้ไขทันที อาจเกิดปัญหาเย็บไม่ติดดี และมีโอกาสเด้งกลับเหมือนเดิมได้


Q : หูสองข้างไม่เท่ากัน สามารถศัลยกรรมให้เท่ากันได้หรือไม่ ?

A : คนไข้ที่มีใบหูใหญ่ ไม่จำเป็นต้องกางทั้งสองข้าง ในบางคนอาจเกิดเพียงแค่ข้างเดียว แต่ส่วนใหญ่เรามักจะพบปัญหาทั้งสองข้างเหมือนกัน แต่อาจจะกางไม่เท่ากันในแต่ละข้าง กรณีผ่าตัดหูทั้ง 2 ข้าง เมื่อหูพับหุบแล้ว หูทั้งสองข้างอาจจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ไม่สามารถการันตีได้ว่าหูทั้งสองข้างจะหุบเท่ากันหรือเหมือนกัน 100% ถ้าข้างใดข้างหนึ่งไม่เด้งก็จะดูคล้ายกันไป แต่โดยมากแพทย์จะผ่าตัดให้ใบหูหุบเข้ามาให้ใกล้เคียงกันมากที่สุดอยู่แล้ว


Q : หลังผ่าตัด ต้องใช้ผ้าคาดทับใบหูไว้นานเท่าไหร่ ?

A : โดยทั่วไปหลังผ่าตัดจะใช้เวลาพักฟื้นที่บ้าน 1-2 วัน หรือบางคนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และแผลจะหายดีในช่วงเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากผ่าตัดแล้ว หูยังมีโอกาสเด้งกลับ 15-20% ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ผ้าคาดผมคาดทับใบหูไว้อย่างน้อย 3 เดือน วันละ 6-8 ชม.เพื่อป้องกันการเด้งกลับของใบหู และเพื่อที่จะให้เก็บหูไปด้านหลัง ป้องกันการพับของหูมาด้านหน้าตอนนอนหลับด้วย หลังจากระยะ 3 เดือนเป็นต้นไป ถ้าใบหูไม่เด้งกลับ มักจะไม่เด้งกลับแล้ว


Q :  หากหูเด้งกลับ และต้องการศัลยกรรมหูกางอีกครั้ง ต้องทิ้งระยะเวลาห่างกันเท่าไหร่ ?

A : กรณีหูเด้งกลับ ซึ่งส่วนใหญ่กว่าจะเด้งกลับต้องใช้เวลานาน หรือหูอาจจะเด้งออกมาเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าคนไข้ยังพอใจในลักษณะที่เกิดขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไข แต่ถ้ารู้สึกเด้งออกมามากจนทำให้ดูไม่สวยงาม ก็สามารถผ่าตัดซ่อมแก้ไขใหม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะต้องทิ้งระยะเวลาให้ผ่าน 3 เดือนแรกไป เพื่อให้แผลหายดีก่อน เพราะหากรีบแก้ไขทันที อาจเกิดปัญหาเย็บไม่ติดดี และมีโอกาสเด้งกลับเหมือนเดิมได้